การตลาดแบรนด์คืออะไร? ความหมายและกลยุทธ์
เผยแพร่แล้ว: 2023-02-13สารบัญ
การตลาดแบรนด์คืออะไร?
การตลาดของแบรนด์เป็นวิธีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการในลักษณะที่สร้างความภักดีต่อแบรนด์และการจดจำแบรนด์ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และการรวมคุณค่าของแบรนด์เข้ากับประสบการณ์ของลูกค้าโดยรวม
การตลาดของแบรนด์เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ แคมเปญบนโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของแบรนด์ในเชิงบวก บริษัทต่างๆ สามารถสร้างความไว้วางใจและความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มผู้ชมเป้าหมายได้ ด้วยกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ที่ดี ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
ในที่สุด การตลาดของแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจ การตลาดของแบรนด์ยังครอบคลุมถึงการสร้างภาพที่น่าจดจำ (โลโก้ ฟอนต์ ฯลฯ) ตลอดจนสโลแกนหรือแท็กไลน์ที่ผู้คนสามารถระบุถึงบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งได้อย่างง่ายดาย การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นองค์ประกอบสำคัญของการตลาดของแบรนด์
คำนิยาม
การตลาดของแบรนด์เป็นกลยุทธ์ที่ครอบคลุมซึ่งใช้ในการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการและสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ มันเกี่ยวข้องกับช่องทางการตลาดที่หลากหลายตั้งแต่การโฆษณาไปจนถึงโซเชียลมีเดีย และใช้กลวิธี เช่น การเล่าเรื่อง แคมเปญการสร้างแบรนด์ และการวางตำแหน่งแบรนด์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องราวของแบรนด์เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับลูกค้าได้ นักการตลาดแบรนด์ใช้การเล่าเรื่อง ภาพ และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและเกี่ยวข้องกับแบรนด์
แคมเปญการตลาดของแบรนด์ก็มีความสำคัญเช่นกันในการช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แคมเปญเหล่านี้ควรได้รับการวางแผนอย่างดี ดำเนินการอย่างมีกลยุทธ์ และดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ นักการตลาดแบรนด์มักใช้กลวิธีทางการตลาดของแบรนด์ที่หลากหลาย เช่น การตลาดดิจิทัล การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ และการตลาดเนื้อหาเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบรนด์คืออะไร?
แบรนด์คือเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำให้บริษัท ผลิตภัณฑ์ หรือบริการแตกต่างจากคู่แข่ง ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของแบรนด์ เช่น โลโก้ สโลแกน สีของแบรนด์ และเสียงของแบรนด์
แบรนด์เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการ เป็นประสบการณ์ที่ลูกค้ามีต่อบริษัทหรือแบรนด์ และเป็นตัวกำหนดความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์โดยรวม
เป้าหมายของการตลาดแบรนด์
เป้าหมายของการตลาดแบรนด์คือการสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า สิ่งนี้สามารถทำได้ผ่านแคมเปญการรับรู้ถึงแบรนด์ เนื้อหาที่มีส่วนร่วม การริเริ่มประสบการณ์ลูกค้า การตลาดบนโซเชียลมีเดีย และโปรแกรมความภักดีต่อแบรนด์ เป้าหมายหลักบางประการคือ-
1. การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์
เอกลักษณ์ของแบรนด์ควรมีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำ เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่าย ซึ่งรวมถึงการสร้างโลโก้ สโลแกน หรือแท็กไลน์ที่สอดคล้องกับคุณค่าและพันธกิจของแบรนด์
2. การเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
แคมเปญการรับรู้ถึงแบรนด์ช่วยให้แน่ใจว่าผู้บริโภครู้จักแบรนด์ของคุณและความหมายของแบรนด์ ซึ่งอาจรวมถึงการโฆษณาแบรนด์แบบดั้งเดิม แคมเปญโซเชียลมีเดีย การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ และการสร้างเนื้อหา
3. สร้างความภักดีต่อแบรนด์
โปรแกรมความภักดีต่อแบรนด์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการให้รางวัลแก่ลูกค้าสำหรับความภักดีของพวกเขา โปรแกรมเหล่านี้สามารถเสนอส่วนลดพิเศษ รางวัล หรือข้อเสนอพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยู่กับแบรนด์ของคุณต่อไป
4. การสร้างผู้สนับสนุนแบรนด์
ผู้สนับสนุนแบรนด์คือลูกค้าที่รักแบรนด์ของคุณและแบ่งปันประสบการณ์กับผู้อื่น ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ ซึ่งสามารถทำได้ผ่านโปรแกรมการอ้างอิงหรือการสร้างโปรแกรมแบรนด์แอมบาสเดอร์
5. การเพิ่มประสิทธิภาพตราสินค้า
การมีตราสินค้าที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจใด ๆ เนื่องจากจะช่วยให้พวกเขาแตกต่างจากคู่แข่งและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ การสร้างตราสินค้าต้องใช้กลยุทธ์การตลาดตราสินค้าที่ครอบคลุมซึ่งรวมถึงแคมเปญการรับรู้ตราสินค้า การริเริ่มประสบการณ์ลูกค้า และโปรแกรมความภักดีต่อตราสินค้า
6. การสร้างความผูกพันกับแบรนด์
การมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการทำตลาดแบรนด์ ซึ่งอาจรวมถึงแคมเปญโซเชียลมีเดีย การตลาดผ่านอีเมล ผู้มีอิทธิพล และการทำงานร่วมกันด้านเนื้อหา และการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วม
สร้างกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ที่มั่นคง
- การทำวิจัย: การรู้จักแบรนด์ของคุณและอุตสาหกรรมที่คุณดำเนินการเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับความสำเร็จทางการตลาดของแบรนด์ การวิจัยความชอบของลูกค้า คู่แข่ง และแนวโน้มของตลาดจะช่วยกำหนดทิศทางของกลยุทธ์แบรนด์ของคุณ
- เข้าใจจุดประสงค์ของแบรนด์: การรู้จุดประสงค์ของแบรนด์ของคุณควรเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามทางการตลาดของแบรนด์ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงดำรงอยู่ สิ่งที่คุณยืนหยัด และวิธีที่คุณต้องการให้ลูกค้ารับรู้
- กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์: การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์และพันธกิจจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าความพยายามทางการตลาดของแบรนด์ทั้งหมดมีจุดเน้นที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ง่าย
- ขายเรื่องราวของคุณ: การเล่าเรื่องเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการตลาดของแบรนด์ เนื่องจากช่วยสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า การกำหนดเรื่องราวของแบรนด์ที่ไม่เหมือนใครและโดนใจกลุ่มเป้าหมายจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณจากคู่แข่ง
- คำจำกัดความของผู้ชม: การรู้ว่าคุณกำลังกำหนดเป้าหมายใคร และการเข้าใจความต้องการและความชอบของพวกเขาคือกุญแจสู่ความสำเร็จทางการตลาดของแบรนด์ ซึ่งควรรวมถึงการกำหนดข้อมูลประชากร เช่น อายุ เพศ สถานที่ และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- รู้จักคู่แข่ง: สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไร การทำความเข้าใจว่าพวกเขาใช้กลยุทธ์ใดเพื่อดึงดูดลูกค้าสามารถช่วยแจ้งการริเริ่มทางการตลาดของแบรนด์สำหรับแบรนด์ของคุณได้
- สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์: เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจดจำแบรนด์และความภักดี การสร้างภาพ เช่น โลโก้ โทนสี หรือฟอนต์จะช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
- กำหนดข้อความของแบรนด์: การมีข้อความของแบรนด์ที่สอดคล้องกันในทุกโครงการริเริ่มทางการตลาดของแบรนด์จะช่วยสร้างการจดจำและความภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งควรรวมถึงการใช้ภาษา น้ำเสียง และค่านิยมเดียวกันในการสื่อถึงแบรนด์ของคุณ
- พัฒนาหลักเกณฑ์ของแบรนด์: การสร้างหลักเกณฑ์ของแบรนด์จะช่วยให้มั่นใจถึงความพยายามทางการตลาดของแบรนด์ในทุกช่องทางและแคมเปญ ช่วยรักษาความสมบูรณ์และความถูกต้องในข้อความของแบรนด์
- การมีไทม์ไลน์การเปิดตัว: การวางแผนล่วงหน้าสำหรับแคมเปญการตลาดและความคิดริเริ่มของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ การสร้างแผนการเปิดตัวโดยละเอียดพร้อมไทม์ไลน์สำหรับแต่ละเหตุการณ์สำคัญจะช่วยให้มั่นใจว่าเป้าหมายของแคมเปญจะบรรลุเป้าหมายทันเวลา
- การวัดผลแบรนด์: การติดตามประสิทธิภาพของการริเริ่มด้านการตลาดของแบรนด์สามารถช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล ซึ่งควรรวมถึงเมตริกการจดจำแบรนด์ ความภักดีต่อแบรนด์ และตราสินค้า
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะมีพื้นฐานสำหรับกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง
แนวโน้มกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์
1. การใช้โฆษณาแบบเป็นโปรแกรม: การโฆษณาแบบเป็นโปรแกรมคือการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเพื่อซื้อและขายโฆษณาดิจิทัล ทำให้นักการตลาดของแบรนด์สามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วยข้อความของพวกเขา
2. การใช้วิดีโอมาร์เก็ตติ้ง: วิดีโอได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะเครื่องมือทางการตลาดของแบรนด์ ทำให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงผู้ชมจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ภาพและเสียง
3. การเลือกใช้แนวทางแบบ Omnichannel: ด้วยการเกิดขึ้นของช่องทางใหม่ๆ เช่น โซเชียลมีเดียและอุปกรณ์พกพา นักการตลาดแบรนด์ต่างๆ หันมาใช้แนวทางแบบ Omnichannel มากขึ้นในการตลาดแบรนด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงลูกค้าจากหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน
4. การใช้โฆษณาแบรนด์ร่วมกับการตลาดเนื้อหา: เนื้อหาช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลที่มีค่าแก่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ดังนั้นนักการตลาดแบรนด์จึงใช้เนื้อหาควบคู่ไปกับการโฆษณาแบรนด์แบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
5. การติดตามกระแสโซเชียลมีเดีย: โซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดของแบรนด์ที่สำคัญ ช่วยให้นักการตลาดแบรนด์สามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วด้วยข้อความของพวกเขาและมีส่วนร่วมโดยตรงกับลูกค้า
ด้วยการติดตามเทรนด์การตลาดแบรนด์ล่าสุดและรวมเข้ากับกลยุทธ์แบรนด์ของคุณ คุณจะมั่นใจได้ว่าแบรนด์ของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่งและขับเคลื่อนผลลัพธ์
กลยุทธ์การตลาดของแบรนด์
- โฆษณาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณร่วมกัน: การโฆษณาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ควรเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์เป็นที่รู้จักและภักดี โดยการทำเช่นนี้คุณสามารถกระตุ้นการรับรู้ถึงแบรนด์ในขณะเดียวกันก็เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ของคุณ
- การสร้างตัวตนบนเว็บ Amazon ที่มีแบรนด์: การสร้างร้านค้าแบรนด์ Amazon ช่วยให้นักการตลาดแบรนด์สร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับลูกค้าเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์และซื้อผลิตภัณฑ์ของตน
- การเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดของแบรนด์ด้วยการวิเคราะห์: การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Analytics สามารถช่วยให้นักการตลาดแบรนด์เข้าใจได้ดีขึ้นว่าแคมเปญใดทำงานได้ดีที่สุด ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็น
- การปรับปรุงการจดจำชื่อแบรนด์: การเพิ่มการจดจำชื่อแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการตลาดของแบรนด์แบบดั้งเดิม เช่น การโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ แต่ยังรวมถึงการริเริ่มทางดิจิทัล เช่น SEO หรือการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์
- การสร้างแบรนด์รายบุคคล: การมุ่งเน้นความพยายามทางการตลาดของแบรนด์ในแต่ละองค์ประกอบ เช่น ผลิตภัณฑ์หรือบริการสามารถช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ดีขึ้นว่าอะไรที่ทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง
- การสร้างแบรนด์ด้วยทัศนคติ: ด้วยการสร้างแบรนด์ด้วยทัศนคติ นักการตลาดแบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้ชมโดยการแสดงคุณค่าและความเชื่อของแบรนด์
- กลยุทธ์ไม่มีแบรนด์: นักการตลาดแบรนด์อาจเลือกใช้กลยุทธ์ "ไม่มีแบรนด์" ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ ทำให้มีแนวทางที่มุ่งเน้นมากขึ้นในการทำตลาดแบรนด์
- การขยายตราสินค้า: การสร้างผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมภายใต้ชื่อตราสินค้าที่มีอยู่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างการรับรู้ถึงตราสินค้าและเพิ่มยอดขาย ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุน
- ฉลากส่วนตัว: การเปิดตัวแบรนด์ฉลากส่วนตัวของคุณเองช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใครซึ่งอาจไม่มีจากคู่แข่ง ทำให้คุณได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด
- Crowdsourcing: แบรนด์ต่าง ๆ หันมาใช้ฝูงชนมากขึ้นเพื่อรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแคมเปญของแบรนด์ ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นเมื่อวางแผนกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์
- การตลาดเนื้อหา: การตลาดเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์และแบ่งปันได้ซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์
- แคมเปญโซเชียลมีเดีย: โซเชียลมีเดียเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และการมีส่วนร่วมกับลูกค้า แบรนด์สามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างเนื้อหาที่มีแบรนด์ จัดการแข่งขันและแจกของรางวัล หรือเรียกใช้โฆษณาที่ตรงเป้าหมาย
- การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์: การทำงานกับแบรนด์แอมบาสเดอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์
- การเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ผู้ใช้: การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้บนเว็บไซต์หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณสามารถช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดีขึ้นและส่งเสริมความภักดีของลูกค้า
- การปรับให้เป็นส่วนตัว: การปรับแคมเปญการตลาดให้เป็นส่วนตัวเพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าเฉพาะสามารถช่วยให้แบรนด์สร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่มีความหมายมากขึ้น
- แคมเปญไวรัล: การสร้างเนื้อหาที่แชร์ได้หรือวิดีโอที่มีส่วนร่วมสามารถช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้นและเพิ่มการจดจำแบรนด์
แอตทริบิวต์ของแบรนด์คืออะไร?
คุณลักษณะของแบรนด์คือคุณภาพและคุณลักษณะที่ลูกค้าเชื่อมโยงกับแบรนด์ ตัวอย่างของคุณลักษณะของแบรนด์ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ นวัตกรรม และการบริการลูกค้า
แอตทริบิวต์ของแบรนด์เหล่านี้ควรสอดคล้องกันในทุกความพยายามทางการตลาดของแบรนด์ เพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์เป็นที่รู้จักและมีความภักดีต่อลูกค้า
Brand Equity คืออะไร?
คุณค่าของตราสินค้าคือคุณค่าของตราสินค้า โดยพิจารณาจากการรับรู้ตราสินค้าและความภักดีของลูกค้า มูลค่านี้สามารถเห็นได้ในความเต็มใจของลูกค้าที่จะจ่ายมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการจากแบรนด์นั้น บริษัทที่มีตราสินค้าที่แข็งแกร่งมักจะคิดราคาสินค้าของตนในราคาพิเศษ เนื่องจากลูกค้ารู้จักและชอบตราสินค้าของตน
การสร้างตราสินค้าต้องใช้เวลาและต้องใช้กลยุทธ์การตลาดตราสินค้าที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงแคมเปญการรับรู้ถึงแบรนด์ โปรแกรมความภักดีต่อแบรนด์ การริเริ่มประสบการณ์ลูกค้า และการออกแบบผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์
ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคคืออะไร?
ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคคือการเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ความสัมพันธ์นี้ควรอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความภักดี และความเคารพซึ่งกันและกัน บริษัทควรทำงานเพื่อทำความเข้าใจความต้องการและความต้องการของผู้บริโภคเพื่อสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่มีความหมายซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาอีก
การตลาดของแบรนด์มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ด้วยการตลาดของแบรนด์ บริษัทต่างๆ สามารถสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ สร้างการจดจำแบรนด์ และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ บริษัทต่างๆ ควรพยายามสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
การสร้างแบรนด์ vs การตลาด
แม้ว่าการตลาดของแบรนด์และกลยุทธ์แบรนด์จะสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองสิ่งนี้ การสร้างแบรนด์คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักซึ่งสื่อถึงข้อความของแบรนด์และคุณค่าของบริษัทของคุณ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างการจดจำแบรนด์และความภักดีเมื่อเวลาผ่านไป
ในทางกลับกัน การตลาดของแบรนด์เกี่ยวข้องกับการสร้างแคมเปญและความคิดริเริ่มเพื่อส่งเสริมแบรนด์และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มยอดขายในระยะสั้น โดยมักจะผ่านข้อเสนอส่งเสริมการขายหรือส่วนลด
การตลาดของแบรนด์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคและเพิ่มการจดจำแบรนด์ นักการตลาดแบรนด์ควรใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ SEO และการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์เพื่อส่งเสริมแบรนด์ของตนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ นักการตลาดแบรนด์ควรเข้าใจความแตกต่างระหว่างการตลาดแบรนด์และการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างกลยุทธ์แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จซึ่งจะผลักดันผลลัพธ์ในระยะยาว
ตัวอย่างบริษัทที่ใช้ Brand Marketing
แอปเปิล
Apple เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่สะอาดตาและทันสมัย รวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ แบรนด์ได้ใช้การตลาดของแบรนด์เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์และคุณค่าของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น Apple ใช้แคมเปญของแบรนด์ เช่น “Think Different” เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม กลยุทธ์การตลาดแบรนด์ของพวกเขาสามารถเห็นได้จากการใช้การรับรองคนดัง ทูตแบรนด์ และแคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย
Google เป็นแบรนด์ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือค้นหา แบรนด์ได้ใช้การตลาดของแบรนด์เพื่อเน้นคุณค่าของนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น Google ใช้แคมเปญของแบรนด์ เช่น "Search On" เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการแก้ปัญหา พวกเขายังใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ การตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และแคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าหมายเพื่อส่งเสริมแบรนด์ของพวกเขา
ไนกี้
Nike เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันในเรื่องการส่งข้อความถึงแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ แบรนด์ได้ใช้การตลาดของแบรนด์เพื่อสร้างแคมเปญผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปที่กีฬา สุขภาพ และการเสริมสร้างพลังอำนาจ หนึ่งในแคมเปญของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือแคมเปญ “Just Do It” ซึ่งกระตุ้นให้ผู้คนกล้าท้าทายและก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ การทำงานร่วมกันกับแบรนด์ และแคมเปญโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
สตาร์บัคส์
Starbucks เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟคุณภาพสูงและบรรยากาศสบายๆ แบรนด์ได้ใช้การตลาดของแบรนด์เพื่อสร้างการเชื่อมต่อทางอารมณ์กับลูกค้าและส่งเสริมคุณค่าของแบรนด์ในด้านชุมชน ความสะดวกสบาย และคุณภาพ ตัวอย่างเช่น แบรนด์ได้ใช้แคมเปญของแบรนด์ เช่น “The Way I See It” เพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า
บทสรุป!
สิ่งสำคัญที่สุดคือการตลาดของแบรนด์เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ช่วยสร้างความไว้วางใจกับลูกค้า ทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
ต้องใช้กลยุทธ์ที่รอบคอบ ข้อความที่สร้างสรรค์ และการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาหนึ่งจึงจะประสบความสำเร็จ การลงทุนในการตลาดของแบรนด์คือการลงทุนเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาวของธุรกิจของคุณ
ด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำ คุณจะมั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่งและเป็นที่น่าจดจำของลูกค้าอย่างแท้จริง
หรือลองดูที่ Marketing91 Academy ซึ่งให้คุณเข้าถึงหลักสูตรการตลาดมากกว่า 10 หลักสูตรและกรณีศึกษากว่า 100 รายการ