ข่าว SEO ที่คุณสามารถใช้ได้: นโยบายเนื้อหาที่สร้างโดย AI กำลังมาถึง Google

Kenichi Suzuki ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่านการค้นหาของญี่ปุ่นได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญจากงาน Google Search Central Live Tokyo 2023 ที่ เพิ่งปิดฉากไปเมื่อไม่นานมานี้ Gary Illyes นักวิเคราะห์ของทีม Google Search เข้าร่วมกับเขา และพวกเขาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) คุณลักษณะของ Google ที่กำลังจะมีขึ้น และประสบการณ์การสร้างการค้นหา

ไฮไลท์ของโพสต์ของ Suzuki คือคำตอบของ Gary สำหรับคำถามที่ว่าพวกเขาปฏิบัติต่อประสบการณ์ปลอมที่สร้างโดย AI เพื่อให้สอดคล้องกับ แนวทาง EEAT ของ Google (ประสบการณ์-ความเชี่ยวชาญ-การมีอำนาจ-ความน่าเชื่อถือ)

Gary เปิดเผยว่า Google กำลังมีการสนทนาภายในและกำลังดำเนินการเกี่ยวกับนโยบาย AI เพื่อแก้ไขปัญหานี้และน่าจะมากกว่านั้น

นี่คือคำแปลภาษาอังกฤษจากโพสต์ของ Suzuki:

คำถาม:Google จะทำอย่างไรหากประสบการณ์ (ซึ่งมีความสำคัญใน EEAT) ถูกสร้างขึ้นโดย AI แม้ว่าจะไม่ได้มีประสบการณ์จริงก็ตาม

Gary: เรากำลังปรึกษากันเป็นการภายในว่าจะตอบสนองอย่างไรเราจะประกาศเมื่อเรามีนโยบายที่สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้

จุดยืนต่อสาธารณะในปัจจุบันของ Google เกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI ก็ถูกย้ำอีกครั้งในระหว่างงาน

เขาย้ำว่า Google จัดอันดับเนื้อหาของคุณตามคุณภาพ มากกว่าวิธีการผลิต เขายังกล่าวด้วยว่าผู้เผยแพร่ในระบบนิเวศของ Google จำเป็นต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาของตนอย่างชัดเจนว่าสร้างโดย AI หากข้อมูลนี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การค้นหาเตือนว่าคุณควรเผยแพร่เนื้อหาหลังจากตรวจสอบคุณภาพผ่านการตรวจสอบโดยมนุษย์แล้วเท่านั้น

“ห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่สร้างโดย AI ตามที่เป็นอยู่AI ไม่จำเป็นต้องเขียนเฉพาะข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้นควรเผยแพร่หลังจากการตรวจสอบโดยมนุษย์เท่านั้น”Illyes กล่าว

เช่นเดียวกับเนื้อหาที่แปล แม้ว่าเนื้อหาของคุณจะได้รับการแปลโดยแมชชีนเลิร์นนิง แต่ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ก็ควรตรวจสอบเนื้อหาเหล่านั้น Illyes อ้างถึง Search Central เป็นตัวอย่าง:

“เอกสารใน Search Central ก็แปลด้วยเครื่องเช่นกัน แต่เอกสารเหล่านั้นจะถูกเผยแพร่หลังจากได้รับการตรวจสอบโดยมนุษย์”

มีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องว่าควรควบคุม AI อย่างไร ใน บทความที่แล้ว เราได้พูดถึงจุดยืนต่อสาธารณะของ OpenAI เกี่ยวกับประเด็นนี้: กฎระเบียบของรัฐบาลและความโปร่งใสขององค์กรที่มากขึ้น ในทางกลับกัน Google กำลังเรียกร้องให้ มีอิสระและการควบคุมตนเองมากขึ้น ในนามของนวัตกรรม (อ่านเพิ่มเติม: วาระนโยบาย AI ของ Google )

Google และบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น Facebook กำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากรัฐบาล เนื่องจาก ความกลัวข่าวปลอมและการบิดเบือนข้อมูล (สาเหตุหลักมาจากประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์) กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก

ในขณะที่ AI พัฒนาอย่างต่อเนื่อง นโยบายของเราก็ควรจะควบคุมเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าสื่อสิ่งพิมพ์และนักการตลาดต้องฝึกฝนการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบเมื่อสร้างเนื้อหา โดยเน้นการตรวจสอบโดยมนุษย์และกระบวนการประกันคุณภาพเป็นอย่างมาก

แม้ว่า AI เชิงสร้างสรรค์จะเพิ่มความคล่องตัวให้กับการสร้างเนื้อหา แต่สิ่งนี้อาจแลกมาด้วยต้นทุนด้านคุณภาพและอันดับการค้นหา

ในขณะนี้ เมื่อ Google ยังไม่ออกนโยบายการค้นหาเกี่ยวกับ AI วิธีที่ดีที่สุดคือพึ่งพาความเชี่ยวชาญของมนุษย์ ความรู้ความชำนาญ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) นี่เป็นวิธีเดียวที่ไม่มีความเสี่ยงและเชื่อถือได้ในการรักษาและเสริมการมองเห็นการค้นหาของคุณ

นี่คือโพสต์ฉบับเต็มจาก Kenichi Suzuki

ข่าว SEO เพิ่มเติมที่คุณสามารถใช้ได้:

ข้อมูล Business Profile มาถึง Search Generative Experience (SGE): SGE รุ่นทดลองของ Google กำลังได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง เนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านการค้นหานำรีวิวและรูปภาพจาก Google Business Profileในบล็อกของพวกเขา Google กล่าวว่า "เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ SGE สำหรับการค้นหาในท้องถิ่นและการเดินทาง"ซึ่งหมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณค้นหาสถานที่หรือจุดหมายปลายทางผ่าน SGE การค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถดึงวิดีโอและภาพถ่ายจากฐานข้อมูล “สถานที่ 200 ล้านแห่งในโลกแห่งความเป็นจริง”ผู้ใช้ Twitter โพสต์ภาพหน้าจอ ของฟีเจอร์นี้ที่ใช้งานจริง โดยมีรูปภาพสำนักงานของผู้เขียนพร้อมกับชีวประวัติของเธอที่สร้างโดย SGE ผ่าน Google Business Profile (GBP) ผู้ใช้รายอื่น โพสต์ภาพรวม ของคุณลักษณะนี้ ครั้งนี้ เขาค้นหาร้านอาหารชื่อ “La Hacienda” ผลลัพธ์รวมคำอธิบายร้านอาหารที่สร้างโดย SGE พร้อมรูปภาพอาหารของพวกเขาที่โพสต์ผ่านบทวิจารณ์ GBP คุณลักษณะใหม่นี้ทำให้ SGE มีประโยชน์และสนุกสนานมากขึ้น เนื่องจากคุณไม่ต้องพึ่งข้อความเพียงชุดเดียวในการตัดสินใจว่าคุณควรไปที่ใด เจาะลึกเรื่องราวนี้ด้วย บทความ Search Engine Roundtable นี้

Google ยื่นฟ้องนักการตลาดรีวิว GBP ปลอม: คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ GMBEye และ Rafadigital หรือไม่หากคุณยังไม่ได้ Google ได้ทำอย่างแน่นอน ยักษ์ใหญ่ด้านเสิร์ชเอ็นจิ้นระบุว่าเป็นบริษัทเดียว นักการตลาดจัดอันดับและให้เช่าเหล่านี้กำลังถูก Google ฟ้องฐานปฏิบัติที่ผิดจรรยาบรรณของ GBP: การยืนยันโปรไฟล์ธุรกิจปลอม การโพสต์รีวิวปลอม และการขายธุรกิจจริงซึ่งนำไปสู่การรวบรวมจากโครงการของพวกเขา อันดับและค่าเช่าเป็นวิธีปฏิบัติในการสร้างเว็บไซต์และโปรไฟล์สำหรับบริษัทที่ไม่มีอยู่จริง จากนั้นจึงขายโอกาสในการขายที่ได้รับจากธุรกิจปลอมเหล่านี้ให้กับธุรกิจจริง แผนการดังกล่าวถูกเปิดเผยเนื่องจากความเป็นส่วนตัวของกลุ่ม Facebook ที่พวกเขาดำเนินการนั้นถูกตั้งค่าเป็น "สาธารณะ" อย่างไร้เดียงสา ในคำแถลงคดีของพวกเขา Google อ้างว่า"จำเลยเชื่อมต่อกับเครือข่ายโปรไฟล์ธุรกิจที่ฉ้อฉลกว่า 350 รายการ ซึ่งมีรีวิวปลอมอย่างน้อย 14,000 รายการ" โดยไม่ผ่านกระบวนการยืนยันของ Google โดยสิ้นเชิง Google ขนานนามว่าเป็น"คดีคุ้มครองผู้บริโภค"นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายคดีที่ Google ยื่นฟ้องต่อธุรกิจที่กล้าใช้ ข้อกำหนดในการให้บริการ ของตน อย่างไม่ใส่ใจ ตรวจสอบ บทความ Search Engine Journal นี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

AdSense ผสานรวมกับ Google Analytics 4 (GA4): เนื่องจาก GA4 ใกล้เข้ามามากในปีนี้ Google จึงประกาศว่า พวกเขากำลังผสานรวมข้อมูล AdSense เข้ากับพร็อพเพอร์ตี้ GA4ซึ่งหมายความว่าขณะนี้คุณสามารถสร้างรายงานที่ดูประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณอย่างครอบคลุม รวมถึงการคลิกโฆษณา ข้อความค้นหา และการแสดงผล ในการเชื่อมต่อ AdSense และ GA4 คุณต้องคลิกบัญชีไปที่ การเข้าถึงและการให้สิทธิ์การรวม Google Analytics แล้วคลิกลิงก์ใหม่จากนั้น เลือกพร็อพเพอร์ตี้ GA4 ที่คุณต้องการเชื่อมโยงกับ AdSense เท่านี้ก็เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังความคลาดเคลื่อนของข้อมูลระหว่างบัญชี AdSense และ Analytics เนื่องจาก Google เปลี่ยนไปใช้การผสานรวมใหม่นี้ อ่าน โพสต์ของ Search Engine Journal สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตนี้

องค์ประกอบ <head> ที่กำหนดเองอาจทำให้การแสดงผลหน้าเว็บเสียหาย – ผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Google Search Advocate John Mueller จะไม่สนับสนุนให้คุณใช้องค์ประกอบที่กำหนดเองในส่วนหัวของเอกสารใน การสนทนาของ Twitter ผู้ใช้ถามเกี่ยวกับความถูกต้องของการใช้องค์ประกอบที่กำหนดเองในส่วน <head> ของหน้าเว็บ Mueller ตอบว่า"การใช้องค์ประกอบที่กำหนดเองใน <head> อาจทำให้การแสดงหน้าเว็บใน Google Search หยุดชะงัก"นี่เป็นเพราะ“Google อาจไม่รู้จักพวกเขาระหว่างการแสดงผล”นอกจากนี้เขายังแนะนำให้คุณย้ายองค์ประกอบ "ไม่แน่นอน" ทั้งหมดไปที่ส่วนท้ายของส่วน <head> เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบเมื่อถูกปิด หากคุณต้องการให้แน่ใจว่าหน้าเว็บของคุณมีความสามารถจัดทำดัชนีและรวบรวมข้อมูลได้ คุณต้องจัดลำดับความสำคัญของแท็ก HTML มาตรฐาน ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยว กับเรื่องนี้ ให้คลิก โพสต์วารสาร Search Engine นี้

Meta เปิดตัวโฆษณา ทดสอบฟีเจอร์ AI สำหรับ Instagram Reels: Instagram ได้รับโฆษณาวิดีโอแบบสั้นในเวอร์ชันของตัวเอง เนื่องจาก Meta นำฟีเจอร์นี้ และฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาสู่แพลตฟอร์มเรียกว่า Reels Ads โฆษณาเหล่านี้จะรู้สึกเป็นธรรมชาติและไม่ล่วงล้ำเมื่อคุณเลื่อนดูฟีดของคุณ ลองนึกถึงโฆษณาที่คุณพบบน TikTok และ Facebook ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึงการศึกษา ที่ Instagram ไล่ตามหลัง TikTok อย่างใกล้ชิดในแง่ของการมีส่วนร่วมของผู้ชมและจำนวนการดู เห็นได้ชัดว่า Meta มองเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์วิดีโอแบบสั้นของพวกเขา ดังนั้นการเปิดตัวโฆษณาแบบม้วน คุณลักษณะที่สองคือการใช้ Meta Sound Collection ในกระบวนการสร้างสรรค์ของผู้โฆษณา คอลเลกชันนี้มีแบรนด์เพลงคุณภาพสูงที่สามารถใช้เพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับโฆษณา Reels แบบรูปภาพเดียว นี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Meta ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมกับโฆษณาภายในแพลตฟอร์มของตน เจาะลึกประกาศนี้ด้วยบทความนี้ จาก Search Engine Land

หมายเหตุบรรณาธิการ: “ข่าว SEO ที่คุณสามารถใช้ได้” เป็นบล็อกโพสต์รายสัปดาห์ที่โพสต์ทุกเช้าวันจันทร์บนSEOblog.com เท่านั้นโดยรวบรวมข่าว SEO ยอดนิยมทั้งหมดจากทั่วโลกเป้าหมายของเราคือการทำให้SEOblog.comเป็นร้านค้าแบบครบวงจรสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาข่าวสาร SEO การศึกษา และการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ด้วยไดเรกทอรีเอเจนซี่ SEO ที่ครอบคลุมของเรา